FILLER

ฟิลเลอร์คือสารที่ชื่อ Hyaluronic Acid หรือ HA ที่เรารู้จักกันดี มีอยู่ในชื่อการค้ามากมายแล้วแต่สถานบริการไหนจะเลือกใช้ ปัจจุบัน Medicare Clinic ได้เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผลิตจากยุโรปซึ่งถือเป็นพรีเมียมเกรด และฟิลเลอร์ที่ผลิตจากประเทศเกาหลีซึ่งจัดได้ว่าเป็นประเทศที่พัฒนาการฉีดฟิลเลอร์จนเป็นที่รู้จักและโด่งดังทั่วโลก

FILLER ฉีดจมูก

ฟิลเลอร์ฉีดจมูก คือการใช้ฟิลเลอร์ตัวแข็ง ที่มีค่า G Prime สูง หนืดแข็งสามารถจัดเหลี่ยมจัดคมได้ดี การฉีดจมูก อาจจำเป็นต้องระวังในเรื่องกายวิภาค เพราะจากประสบการณ์และประวัติการฉีดฟิลเลอร์พบว่าอาจฉีดเข้าเส้นเลือดได้และมีปัญหาเรื่องของทำให้เส้นเลือดอุดตันทำให้อวัยวะที่ได้รับการเลี้ยงนั้นมีการขาดเลือด Medicare มีประสบการณ์ในการฉีดจมูกมากกว่า 27 ปี มีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก มีการอบรมสอนการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณสันจมูกด้วยความเข้าใจในกายวิภาค และหลีกเลี่ยงการฉีดเข้าเส้นเลือดที่ชื่อว่า Angular Artery ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่สามารถย้อนเข้าไปหล่อเลี้ยงลูกตาได้

แพทย์ Medicare ทุกคนมีความระมัดระวังเป็นอย่างสูงและพยายามสร้างผลงานให้ดีที่สุด ให้มีภาวะแทรกซ้อนเล็กน้อยหรือแทบจะไม่มี จนเป็นที่ไว้วางใจตลอดมา ส่วนใหญ่ฟิลเลอร์มักจะใช้ประมาณ 2-3 ซีซี ขึ้นกับคนไข้นั้นมีฐานจมูกมากน้อยขนาดไหน ฟิลเลอร์ที่ใช้อาจคงอยู่ได้ประมาณ 1 ปีครึ่งโดยเฉลี่ย

FILLER คาง

ฟิลเลอร์คาง เป็นอีกบริเวณหนึ่งที่ Medicare นิยมใช้ฉีดและใช้ฟิลเลอร์ตัวแข็งซึ่งมีค่า G Prime สูงเช่นกัน การฉีดคางต้องมีการกะระยะทาง โดยการถ่ายรูปหน้าด้านข้าง เพื่อดูความสัมพันธ์ระหว่างจมูก ริมฝีปากบน ริมฝีปากล่าง ปลายทางให้เหมาะสมกันรวมทั้งสัดส่วนใบหน้าในบริเวณ Upper Face / Middle Face และ Lower Face ให้ได้สัดส่วนเช่นกัน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์อาจเข้าใจว่าง่ายซึ่งก็ง่ายจริงๆ แต่หากฉีดให้สวย ฉีดให้ได้สัดส่วนและฉีดให้ไม่มีภาวะแทรกซ้อนกลับเป็นงานศิลปะ และมีความจำเป็นต้องใช้แพทย์ที่มีประสบการณ์ มีการฝึกฝน มีการเรียนรู้ ซึ่ง Medicare เอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง

FILLER ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หลายๆ ท่านอาจเข้าใจว่าการฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ร่องแก้ม เพื่อลิฟท์หน้า อาจจำเป็นต้องฉีดตรงที่บริเวณร่องแก้ม ร่องจมูก ร่องมุมปาก แต่หากเข้าใจกายวิภาคของใบหน้าจะทราบว่า การฉีดฟิลเลอร์ถมลงไปตรงๆบริเวณร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมาก อาจจะดูสวยทันทีหลังฉีดเนื่องจากการบวมจากการที่เข็มแทงเนื้อรวมทั้งมีสารฟิลเลอร์ลงไปอยู่บริเวณนั้น แต่หากระยะเวลาผ่านไปสักระยะนึงจะมีการเคลื่อนตกลงโดยแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้ก้อนฟิลเลอร์นั้นซึ่งกระจายอยู่ตัวอยู่เป็นหย่อมๆ ถ่วงน้ำหนักลง ดึงให้ใบหน้าคล้อยและห้อยตลอดเวลาที่ฟิลเลอร์ยังอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการคล้อยตัวและห้อยตัวมากกว่าในอดีตหลังฉีดไปสักระยะหนึ่ง ถือเป็นการเข้าใจวิธีการฉีดฟิลเลอร์ที่อาจไม่ตรงจุด ก่อนอื่นต้องมีการวิเคราะห์ว่าร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือทางย่อยเกิดจาก เหตุผลใด แน่นอนว่าส่วนใหญ่การมีร่องไม่ใช่เกิดจากการขาด Volume หรือขาดชั้นไขมันใต้ผิวหนัง แต่ในกรณีคนไข้อายุมากกว่า 35 ปีเป็นต้นไป มักจะเกิดจากการยืดตัว การเสื่อมคุณภาพของเอ็นยึดโยงใบหน้า คุณภาพผิวที่เสื่อมลงตามวัย ดังนั้นการฉีดแก้ปัญหาลิฟต์ใบหน้าหรือการแก้ปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก จึงแก้โดยการฉีดเพื่อซ่อมแซมเอ็นยึดโยงใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณ ใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลาง และเสริมโครงกระดูกตามปัญหาของคนไข้ที่เกิดขึ้น

FILLER ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ปัจจุบันคนไข้ส่วนใหญ่มักมีปัญหาเรื่องรอบตาคล้ำ รอบตาบุ๋ม หรือรอบตาหย่อนคล้อย หลายๆ ท่านคงมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณใต้ตา แล้วเกิดปัญหาเรื่องตาดูเขียวมัน หรือTyndall Effect ซึ่งทำให้ต้องมาฉีดสารสลายฟิลเลอร์มากมาย เสียเงินและเสียความรู้สึก และไม่ได้ผลการรักษาที่ต้องการ เมดิแคร์คลินิกคิดว่าการฉีดฟิลเลอร์เข้าบริเวณใต้ตาถือว่า จะต้องวิเคราะห์ว่าร่องน้ำตาเกิดจากปัญหาใด ส่วนใหญ่ในกรณีที่คนไข้ไม่ได้ผอมมากและอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป มักไม่ได้เกิดจากปัญหาขาดไขมันที่ใต้รอบตา แต่เป็นการหย่อนคล้อยของเอ็นยึดโยงรอบตา มีการเคลื่อนย้ายของไขมันรอบดวงตา ดังนั้นการแก้ไขปัญหารอบตาดำ ควรจะเป็นการฟื้นฟูเอ็นยึดโยงรอบดวงตา และคุณภาพผิวรอบดวงตา ดังนั้นบริเวณใต้ตาหรือรอบตา แนะนำให้ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นหรือ Plasma Plus และฟิลเลอร์พร้อมกัน ทำให้เกิดการฟื้นฟูเอ็นยึดโยงต่างๆ ใต้ตา รวมทั้งฟื้นฟูคุณภาพผิวและเอ็นต่างๆ แก้ปัญหาการหย่อนคล้อย และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า Tyndall Effect และจากประสบการณ์ที่สัมผัสมา จากคนไข้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากมาย อีกปัญหาหนึ่งที่อาจจะดูสวยหรือสวยแต่รูปจูบไม่หอม นั่นก็คือเมื่อสัมผัสหรือคลำหรือแต่งหน้า จะรู้สึกว่ามีลูกคลื่นยิ้มหรือแสดงสีหน้ามีลูกคลื่น แต่งหน้ายาก สัมผัสก็ไม่เรียบเนียนเป็นไตแข็ง จึงไม่เป็นที่นิยมหรือไม่แนะนำให้คนไข้ฉีดฟิลเลอร์เพียวๆ เปล่าๆ ในเกือบทุกกรณี Medicare แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 5g Prime ต่ำ ประมาณครั้งละ 0.5 ถึง 1 ซีซีแล้วแต่คนไข้แต่ละคน

FILLER หน้าผาก

ฟิลเลอร์หน้าผาก หลายๆ ท่านชอบที่จะฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณหน้าผาก เพื่อหวังว่าหน้าผากจะโหนกนูน แต่หากจะฉีดฟิลเลอร์หน้าผากให้โหนกนูน เรียบเนียนเกลี้ยง คลำดูไม่เป็นตะปุ่มตะป่ำ ก็ต้องเลือกเอาชนิดฟิลเลอร์ที่ค่า G Prime ต่ำ หรือนุ่มนั่นเอง นอกจากนั้น เทคนิคการฉีดของคุณหมอแต่ละท่านก็ไม่สามารถเกลี่ยให้ปริมาณฟิลเลอร์แผ่กระจายใต้ชั้นผิวหนังได้เรียบเนียน เนื่องจากมีเอ็นยึดโยงและกล้ามเนื้อไขว้ไปไขว้มามากมาย เมื่อมีการขยับใบหน้า หรือมีการฉีดปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่กระจายสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะฉีดได้กระจายสม่ำเสมอ ก็มีปัญหาเรื่องหน้าผากเป็นตะปุ่มตะป่ำ แต่งหน้ายากและไม่สม่ำเสมอ หากใช้ฟิลเลอร์ที่ค่า G Prime ต่ำก็อยู่ได้แค่ 3 เดือน 6 เดือน ไม่คุ้มกับการเจ็บตัวและเงินทองที่เสียไป เมดิแคร์คลินิกนิยมใช้ฟิลเลอร์ ฉีดพร้อม Plasma Plus เรียบเนียน แต่งหน้าได้สวย ไม่เป็นตะปุ่มตะป่ำ ไม่เป็นก้อนเป็นตาย เมื่อสัมผัสก็เกิดความรู้สึกนุ่มเรียบไม่เป็นก้อนไม่เป็นลำ

ภาวะแทรกซ้อนที่ซีเรียสหรือสำคัญในการฉีดฟิลเลอร์เข้าบริเวณหน้าผากมีไม่มาก แต่หากฉีดเข้าเส้นเลือด Sup Trochlear ก็อาจมีปัญหาเรื่องเข้าเส้นเลือดได้เช่นกัน และทำให้เกิดปัญหาทางการมองเห็น เพราะเข้าไปสู่เส้นเลือดที่เลี้ยงลูกตา แน่นอนว่า Medicare มีการอบรมฝึกฝนหมอให้ Block ไม่ให้เข้าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงลูกตา ทำให้โอกาสเกิดปัญหาแทบจะไม่มี อย่างไรก็แล้วแต่หมอเมดิแคร์ทุกท่านมีความระมัดระวังเป็นอย่างสูงในการปฏิบัติงานทุกเคส

Medicare แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 5g Prime สูง ซึ่งบริเวณหน้าผากอาจจำเป็นต้องใช้ 2-3 ซีซี แล้วแต่ส่วนหน้าของคนไข้

FILLER ขมับ

ฟิลเลอร์ขมับ Medicare มักจะวิเคราะห์รูปหน้าคนไข้ ซึ่งส่วนใหญ่โอกาสที่จะเติมขมับมีไม่มาก ผู้มาใช้บริการหลายท่านอาจมองว่าขมับบุ๋ม ขมับตอบ แต่เมื่อมาวิเคราะห์กันแล้วมักจะพบว่า กระดูกโหนกแก้มมักจะเด่นหรือยื่นออกด้านข้าง จนทำให้มีความรู้สึกว่าขมับตอบ ซึ่งหากวิเคราะห์กันจริงๆ แล้ว หากสามารถลดความกว้างเด่นของขมับลงได้ก็จะสามารถทำให้ relation หรือความสัมพันธ์ของกรอบหน้าที่บริเวณขมับไม่สำคัญลดลงไป แต่หากจะฉีดจริงก็ไม่มีปัญหา เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณขมับ มักจะฉีดเข้าใต้ชั้นกล้ามเนื้อและวางอยู่เหนือเยื่อหุ้มกระดูก ภาวะแทรกซ้อนแทบจะไม่มี

Medicare มักจะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 5g Prime กลางๆ

FILLER ปาก

ฟิลเลอร์ปากเป็นอีกตำแหน่งที่นิยมฉีดเป็นอย่างมาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น ส่วนใหญ่มักจะใช้ฟิลเลอร์ ค่า G Prime กลางๆจนถึงต่ำ เนื่องจากหากฉีด G Prime สูงจะทำได้เป็นก้อน และเมื่อมีการพูด การสัมผัสมากจะมีความรู้สึกของการเป็นก้อนนูนไม่เรียบเนียนเสมอ แต่ที่สำคัญก็ต้องยอมแลกกับการอยู่คงที่บริเวณปากได้ไม่นาน

รูปแบบปากที่คนไข้ส่วนใหญ่มักจะนิยมแยกเป็นริมฝีปากบนกับริมฝีปากล่าง

ริมฝีปากบนมักจะเป็นการจับขอบปากให้ชัดเจน ซึ่งต้องไล่ฉีดขอบปากให้ชัดเจน บางท่านอาจจะนิยมจะงอยปากให้เด่นชัดหรือไม่ชัดแล้วแต่ความต้องการ นอกจากนั้นยังต้องมีความสัมพันธ์กับหยดน้ำปลายจมูกในแนวมองด้านหน้าและด้านข้าง

ริมข้างริมฝีปากบน อาจมีการฉีดเพื่อปรับการปลิ้นตัวของริมฝีปากด้านขอบข้าง เพื่อทำให้ดูมีการยกตัวขึ้นดูน่ารัก

ริมฝีปากล่าง ส่วนใหญ่มักต้องการให้เกิดการอวบอิ่มและนูนเด่น ซึ่งต้องมีการฉีดที่ด้านในมากกว่าด้านนอก และมีการหลบซ่อนหลังกล้ามเนื้อ แต่ไม่ตื้นเกินไปจนเข้าเยื่อบุช่องปาก เป็นที่น่ารำคาญและมีปัญหาในการรับประทานอาหารรวมทั้งเมื่อมีการขยับปากพูด เป่าเครื่องดนตรี จู๋ปาก หรือเมื่อมีการจูบปากกับคู่รักอาจมีปัญหาเรื่องความไม่น่าพึงพอใจได้ รูปทรงอาจจะเป็นโดนัท หรือเป็นก้อน มีร่องกลางแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน

แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ที่มีค่า G Prime ต่ำ ประมาณ 1-2 ซีซี แล้วแต่ความต้องการและปริมาณความอวบอิ่มของริมฝีปากในคนไข้แต่ละท่าน